“Suzy, did I take care of you?”
เด็กหนุ่มผู้นี้ ได้ประกาศตัวเองสู่สายตาชาวโลกด้วยเพลงเปิดตัวครั้งแรกของเขา " นูน่า...เพราะคุณเป็นผู้หญิงของผม" (นูน่า คือคำที่ผู้ชายเกาหลีใช้เรียกผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า) จนบัดนี้เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี เด็กหนุ่มผู้นี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ KPOP เกาหลีที่มั่นคงและเต็มไปด้วยเสถียรภาพ และยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมสื่อและวงการบันเทิงอีกด้วย
ถึงแม้ว่า ในอุตสาหกรรมนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อย่างรวดเร็ว เพียงชั่วพริบตา อีซึงกิ ก็สามารถที่จะรักษาตำแหน่ง นักร้องและนักแสดงอันดับท็อปของเกาหลี ผ่านทางมินิซีรี่ย์ทางช่อง MBC ไว้ได้
“The Gu Family Book,” (โดยนักเขียน คังอึนคยูง Kang Eun Kyung, ผู้กำกับ ชินวูชูล Shin Woo Chul)
หลังจากที่ละครประสบความสำเร็จไปแล้ว เขายังได้รับคำชมเชยจากผู้กำกับอีกด้วย, อัมชินอา (แปลว่า ที่รักของคุณแม่ทั้งเกาหลี) ต่างสร้างความภาคภูมิใจและได้รับการยกย่องชมเชยเป็นอย่างมากในความน่ารักของเขา โดยแฟนๆ ถึงกับมอบตำแหน่ง "นักแสดงที่สามารถไว้วางใจได้" ให้กับเขาความน่าเชื่อถือของเขาเลยทีเดียว
ตอนี้ เมื่ออีซึงกิ ได้ฟังคำถามที่เกี่ยวกับ ความจริงของ"เด็กหนุ่ม" ที่กลายมาเป็น "ชายหนุ่ม", เขาแสดงออกได้ชัดเจนว่าคำถามนี้กดดันเขาเป็นอย่างมาก
เขาไม่ปราถนาที่จะมีภาพของเด็กหนุ่ม แต่ด้วยประสบการณ์ และความเชื่อมั่นในตัวเอง ที่มาพร้อมกับอายุของเขา ซึงกิได้กลายมาเป็นชายหนุ่มเต็มตัว
เขาพูดเพียงเรื่องที่เกี่ยวกับโอกาสที่เกิดขึ้นเพื่อให้เขาได้ก้าวย่างมาถึงตอนนี้ และเขาชอบความเป็นจริงที่ว่า เขาไม่รู้สึกว่าเขายังเป็นเด็ก แต่เขากลับรู้สึกว่า "การอยู่ในช่วงอายุที่เหมาะสม ที่เราสามารถเติบโตขึ้นได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดี"
The Gu Family Book เป็นละครย้อนยุคเรื่องแรก ตั้งแต่เขาเดบิ้วต์มากว่า 10 ปี กว่าจะจบการถ่ายทำฉากสุดท้ายของ GFB ได้เป็นการผจญภัยที่ยาวนาน และยากลำบากมาก ซึงกิกล่าว
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าพวกเราสามารถทำให้ละครเรื่องนี้จบลงและได้รับการตอบรับที่ดีกลับมา
ซึงกิกล่าวอีกว่า " ในทุกๆฉากในละครเรื่องนี้ จะต้องมีผมปรากฎอยู่ด้วย นั่นคือสิ่งที่ยากมากที่สุด" นั่นเป็นเพราะเขารู้สึกได้ถึงความรับผิดชอบที่เขาจะต้องรับบทนำ ในบทของชอยคังชิ และทุกๆอย่างในละครเรื่องนี้จะต้องดำเนินไปตามการแสดงของเขา สิ่งเป็นบทที่สำคัญมากๆ เขาได้พูดถึงสิ่งสำคัญอย่างความเป็นทีมเวร์คของนักแสดงร่วมคนอื่นๆ และยังต้องรับผิดชอบกับนักแสดงเสริม (Extra)ในเรื่องด้วย "ผมคิดถึงตัวผมเอง นี่สินะที่เป็นเหตุผลว่าทำไมค่าตอบแทนของนักแสดงนำถึงได้สูง" ซึงกิกล่าว ก่อนที่จะยิ้มกว้าง และหัวเราะออกมา
ในละครเรื่องก่อนหน้าของเขาทางช่อง MBC เรื่อง The King Two Hearts อีซึงกิได้จับคู่กับนักแสดงหญิงมากประสบการณ์อย่าง ฮาจีวอน ในเรื่องนี้เขาต้องจับคู่กับนักแสดงหน้าใหม่อย่างซูซี่ เมื่อมองเขาทั้งคู่ทางผ่านทางหน้าจอก็ดูเหมือนที่เขาได้อธิบายไว้
อีซึงกิ "เป็นนักแสดงชายที่มากด้วยประสบการณ์ ผู้ซึ่งจะไม่เป็นภาระ เมื่อเขาต้องทำงานกับนักแสดงหญิงที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่างฮาจีวอน" เขายังคงพูดในสิ่งที่เขาคิดออกมาอย่างต่อเนื่อง "ถ้าผมทำมันได้ดี นั่นแปลว่าฉากนั้นจะต้องออกมาดีด้วย...เมื่อเทียบกับพี่ฮาจีวอน ซูซี่ยังเด็กกว่ามาก และประสบการณ์ยังน้อย (ในเรื่องการแสดง) ดังนั้นผมเลยคิดว่าผมต้องให้คำแนะนำเธอมากขึ้น...นี่เป็นสิ่งที่นักแสดงทั้งสองคน ได้พัฒนาความเป็นทีมเวิร์ค และสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างพวกเขา" อีซึงกิกล่าว
อีซึงกิ ถูกขนานนามในชื่อ "เอนเตอร์เทนเนอร์ที่มีความสามาถหลากหลาย" และเป็นดาวมากกว่าคนอื่นๆ ไม่แค่เพราะการเป็นนักแสดงที่มีความสามารถเท่านั้น แต่รวมถึงนักร้องและพิธีกรที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย .... อะไรคือความลับของสิ่งเหล่านี้นะ?
หลังจากที่ประมวลความคิดเสร็จ อีซึงกิได้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจว่า "จุดสำคัญของทุกๆอย่างเหมือนกัน เมื่อต้องร้องให้ในการแสดง ความรู้สึกจากเพลงสัมผัสได้ด้วย ไม่ว่าผมจะทำอะไร เป้าหมายของผมคือ มีผลลัพธ์ที่ผมจะไม่มีวันเสียใจภายหลัง"
เมื่อเทียบกับกิจกรรมของซึงกิที่ Chungmuro (ย่อมาจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์) ถือว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก มีชื่อเรียกด้วยความรักมากมายที่นั่น แต่สุดท้ายทั้งหมดก็ได้รับการปฎิเสธ
เมื่อไหร่เราถึงจะเห็นอีซึงกิทางหน้าจอ ?
เขากล่าวว่า "ในขณะเดียวกันนั้น มันมีอะไรต้องทำหลายอย่างมากๆ นอกเหนือจากในหนัง อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมีความโลภที่จะต้องการเล่นภาพยนตร์อยู่ แทนที่จะแค่แสดงนำ ผมต้องการทำงานในด้านการผลิตกับรุ่นพี่ ซองคังโฮ คิมยุนซุก และฮันซุกคยู (นักแสดงที่มีประสบการณ์และอายุมากกว่าเขา) และเรียนรู้จากพวกเขา ผมเชื่อว่า แม้จะทำงานกับผู้กับกับมากด้วยฝีมืออย่าง ผู้กำกับ บงจูนโฮ และคิมยงฮวา แม้ว่าผมจะไม่ได้รับบทแสดงนำ ผมคิดว่าผมมีอีกหลายอย่างเลยที่จะต้องเรียนรู้
แม้ว่าจะผ่านมา 10 ปีแล้ว อีซึงกิก็มีอายุอยู่ในช่วงอายุ 20 เท่านั้น บางทีเมื่อเขากลับจากการเป็นทหาร เราอาจจะได้พบกับอีซึงกิที่แตกต่าง มั๊ยนะ? และเมื่อไหร่ที่เขาจะไปถึงจุดสูงสุดของเขา?
"ทุกๆคนมักจะพูดแบบนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะไปถึงจุดสูงสุดในช่วงอายุ 40 , แน่นอน ผมต้องสงสัยแน่ๆ ถ้าหากว่าผมประสบความสำเร็จเช่นที่เป็นผมในตอนนี้ ผมหวังว่าสิ่งนั้นจะออกมาดีกว่าเมื่อผมอายุมากขึ้น"
Please Take Out with Full Credit, Thank You!
Many thanks to the dedicated jerseygirl0420 for translating this amidst her very busy schedule!
source: hankooki via nate
EN-Trans : jerseygirl0420, special contributor to Everything Lee Seung Gi
TH-Trans : Airen'e
BLOG : LeeSeungGiAirenThailand.blogspot.com
FB : FACEBOOK.COM/PAGES/LEE-SEUNG-GIS-AIREN-THAILAND
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น