วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ระหว่างวาไรตี้ กับการแสดง จริงๆแล้ว ผมเป็น...

ลีซึงกิ ภาค2, ระหว่างวาไรตี้ กับการแสดง จริงๆแล้ว ผมเป็น...

ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณแอน (อีซึงกิแฟนคลับ) ที่ได้ยอมเสียสละเวลา จากตารางงานอันยุ่งเหยิง มาช่วยแปลบทความแสนยาวเหยียดนี้(เป็นภาษาอังกฤษ) ให้เรานะคะ ..ทั้งหมดนี้ก็เพราะความรักที่มีต่ออีซึงกิของเรานั่นเอง ^_^

ในปี 2004 อีซึงกิ ได้ครอบครองหัวใจของนูน่าทั่วประเทศ และทำให้ความสัมพันธ์แบบคู่รักต่างวัย (ผู้ชายชอบผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า) เป็นที่ฮิตฮอตในขณะนั้นเลยทีเดียว

จากนักร้องที่สุดหล่อที่มากล้นด้วยความสามารถในการร้องเพลง... ตอนนี้เขาได้ก้าวเข้ามาสู่อาณาจักรของการแสดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อีซึงกิ ได้รับบทเป็นนักแสดงนำในละครเรื่อง “Brilliant Legacy” ซึ่งได้รับเรตติ้งสูงมากถึง 47%
เขาได้รับฉายาว่า “ชายหนุ่มผู้เรียกเรตติ้ง” นอกจากนี้เขายังเป็นพิธีกรในรายการ 1 Night 2 Days, รายการ Strong Heart และรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดัง อื่นๆอีกด้วย

ด้วยความเป็นกันเองและภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาด้วยความจริงใจของเขา ทำให้ภาพของอีซึงกิที่แฟนๆรู้สึกและสัมผัสได้นั้น คือHeodang (ผู้ชายที่สุดแสนจะ Perfect!!)

จากน้องชายของเหล่านูน่า ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นชายหนุ่มอย่างเต็มตัวแล้ว

วันนี้เขาอยู่ที่ไหน? คนเหล่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างเขา ในอดีตที่ผ่านมาเป็นใคร?  และอนาคตอันใกล้ของอีซึงกิ? จะถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวในคอลัมน์สุดท้ายนี้  โดยชายหนุ่มที่ชื่อ “อีซึงกิ”
….


ทุกๆคน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ? ผมเป็นห่วงว่าพวกคุณจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เนื่องจากการที่อากาศเปลี่ยนแปลงแบบเดี๋ยวก็ร้อนเดี๋ยวก็หนาว

เพราะการสนับสนุน และกำลังใจที่พวกคุณส่งมาให้ผมผ่านคอลัมน์นี้ ก็เลยไม่มีอะไรที่น่าเบื่อเลยครับ, นี้เป็นคำทักทาย ที่อีซึงกิกล่าวกับพวกคุณอีกครั้ง


ในคอลัมน์ก่อนหน้านี้  ส่วนใหญ่ได้พูดเกี่ยวกับ ละครเรื่อง “Gu Family Book” ไปแล้ว ผมอยากลองคิดเกี่ยวกับเรื่องราวในวันข้างหน้า และเรื่องของอนาคต,  เรื่องที่ผมเก็บไว้และยังไม่เคยบอกมาก่อน …มาเริ่มกันเลยครับ

 รูปนี้น่าจะเป็นผม ก่อนที่จะกลายร่างเป็นชอยคังชินะ ^_^


  ระหว่างวาไรตี้โชว์กับนักแสดง

สมัยมัธยม ผมเป็นสมาชิกวงดนตรีของโรงเรียน  แค่ชื่อของนักร้อง ก็ทำให้ผมรู้สึกลัวแล้ว
ตอนที่ผมต้องไปแนะนำตัวในโลกของวงการบันเทิง เป็นครั้งแรกกับท่านประธานของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ตอนนี้
ท่านประธานของบริษัทกล่าวว่า ต่อไปนี้จะเป็นช่วงเวลาของการทำกิจกรรมในฐานะนักร้อง ต้องมีบุคลิกที่หลากหลาย และแม้แต่การกลายเป็นนักแสดง แล้วท่านก็แนะนำให้ผมไปเข้าคอร์สเรียนการแสดงครับ

แต่ตอนนั้นผมไม่เคยมีความคิด หรือฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงเลย ดังนั้นผมจึงปฏิเสธคำแนะนำของท่านประธานไปแบบสุภาพ  แต่สุดท้ายแล้ว ผมก็ไม่สามารถหยุดความตั้งใจของท่านประธานได้เลยครับ

ผมได้เริ่มฝึกการแสดง และได้เข้าร่วมรายการ Nonstop5 , แม้กระทั่งในตอนนั้น ผมก็ยังคิดว่าการเป็นนักแสดงก็ยังเป็นอะไรที่ไม่คุ้นเคยและไม่เหมาะกับผมอยู่ดี

ทุกวันนี้ เมื่อท่านประธานกับผม มองย้อนกลับไป ณ จุดนั้น, เราต่างพากันสงสัยว่า ในวันนี้จะเป็นอย่างไรนะ ถ้าในวันนั้น ผมยังคงยืนยันปฎิเสธเสียงแข็ง และถ้าท่านประธานยอมแพ้อย่างง่ายๆ

ตอนนี้การเป็นนักแสดง ได้กลายมาเป็นบางอย่างที่ผมใฝ่ฝันเมื่อตอนเป็นหนุ่ม และเป็นบางอย่างทีผมค่อยๆรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ

ความทรงจำที่ลืมไม่ลง เกี่ยวกับการเป็นนักแสดงที่ได้รับเรตติ้งถึง 47% ใน “Brilliant Legacy”


ในตอนนั้น ทุกคนที่อยู่รอบๆตัวผม ต่างพากันกังวลเป็นอย่างมาก  ที่ผมรับงานแสดงไปพร้อมๆกับการทำวาไรตี้
แม้ว่าตอนนี้ ผมจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญนะ ...แต่มันเป็นอะไรที่ผมมองข้ามไปในอดีต  เมื่อก่อนผมจะคิดง่ายๆแค่ว่า “ตราบเท่าที่ผมทำงานของผมให้ดี”

รายการวาไรตี้ จะเป็นการแสดงออกถึงตัวตนของเราจริงๆ  และต้องใช้ข้อมูลเยอะมาก, นักแสดงรุ่นพี่เคยแนะนำผมว่า “ในเรื่องของการแสดง  จะเติบโตได้มาก  ถ้าคนไม่ค่อยรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเรามากนัก ... แต่ ถ้านายทำวาไรตี้ไปพร้อมๆกับการแสดงด้วย มันดูเหมือนกับนายดูรูปด้วยการปิดตาไว้ข้างนึง” สิ่งนี้สำคัญมากครับ เพราะค่อนข้างจะส่งผลกระทบกับรายการเป็นอย่างมาก

คุณไม่สามารถลบภาพของ อีซึงกิใน 1 Night 2 Days ได้ในทันทีทันได ..นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงคิดว่าการเลือกบทในแต่ละงานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
แต่ยังไงซะตราบใดที่โลกของเรายังเต็มไปด้วยความหลากหลาย  ความลึกลับของการเป็นนักแสดง กับความเป็นกันเองในรายการวาไรตี้ ผมคิดว่ามันก็มีข้อได้เปรียบนะ

ผมต้องขอบคุณและขอโทษจริงๆ สำหรับ พี่ Mina , นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเรียกเธอว่านูน่า

ในระหว่างการแสดง ผมจำคำที่ครั้งนึง  อีซุนแจ เคยพูดไว้ว่า
 “ให้ใส่ใจมันจวบจนวันตาย ไม่ว่าจะอย่างไร จงใส่ใจกับมัน  วิเคราะห์มัน และเอาใจใส่มัน, ช่วงเวลาที่คุณผ่อนคลาย  ช่วงที่คุณไม่ตึงเครียด จะถูกถ่ายทอดไปปรากฎบนหน้าจอ

หลังจากนั้น , ผมก็ได้ไตร่ตรองเกี่ยวกับการแสดงและวาไรตี้ ..และผมก็เชื่อว่า ผมสามารถทุกอย่างได้ทั้งหมดนี่เลย
ทุกวันนี้  ไม่ว่าจะมีอย่างเดียวที่งานออกมาดี  หรือมีสิบอย่าง  ที่ออกมาดี  คนที่ทำงานที่ไม่ค่อยมีคนทำ จะกลายเป็นจุดสนใจ

ตั้งแต่ที่ผมก้าวเข้ามาเป็นทั้งนักแสดง และทำวาไรตี้ไปด้วย พร้อมทั้งได้ทำงานด้านนักร้อง ซึ่งเป็นงานดั้งเดิมของผมอยู่แล้ว ไปด้วยพร้อมๆกัน  ผมคิดว่าผมทำมันได้ดีทั้งสามเรื่องเลยนะครับ  ^^

ภาพยนต์หรือครับ ?
แน่นอนครับ ผมอยากทำมันด้วย, ตอนที่ผมได้ยินเรื่องราว จากรุ่นพี่ หรือเพื่อนร่วมงานที่ได้แสดงหนังนะ ผมอยากเรียนรู้ระบบรวมถึงอย่างอื่นด้วย ผมอยากจะทำให้แน่ใจว่า สิ่งที่ผมได้ศึกษา ได้ตระหนัก และเรียนรู้มานั้นถูกต้อง
หลังจากที่ได้ประสบการณ์มากมาย ผมอยากสัมผัสกับมันโดยตรงนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ แค่เพียงศึกษา อาจจะไม่เพียงพอนะครับ ^^


“The King 2 Hearts” จุดเปลี่ยนด้านการแสดงครั้งสำคัญ ร่วมกับพี่จีวอน


 ความซื่อสัตย์ต่อครอบครัวคนอื่นๆ
จริงๆแล้ว ที่ผมสามารถเดินมาได้ไกลขนาดนี้ เป็นเพราะว่า ท่านประธานและสมาชิกในบริษัท ได้กลายมาเป็นเหมือนกับครอบครัวของผมครับ
เมื่อก่อน ผมไม่รู้อะไร คิดแค่ว่ามันก็เหมือนที่อื่นๆนั่นแหละ  เป็นเพราะผมไม่ค่อยได้สุงสิงกับเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่น่ะครับ แล้วผมถึงค่อยๆตระหนักได้ว่า บริษัทเราเป็นครอบครัวเดียวครับ,
ครั้งหนึ่ง ผมเคยถามท่านประธานว่าทำไมท่านประธาน ไม่ลองมองหาคนที่มีความสามารถใหม่ๆบ้างล่ะครับ?

เธอตอบผมด้วยการพูดว่า, “ถ้าฉันใช้พลังงานของฉันไปกับเรื่องอื่นๆ  พลังงานที่ฉันจำเป็นต้องใช้ทุ่มเทกับเธอ จะลดลง” ตราบใดที่เธอยังไม่ส่องแสงได้เต็มที่  ฉันก็จะยังไม่ไปเพิ่มแสงให้อย่างอื่น

ผมต้องขอบคุณท่านประธานของผมจริงๆครับ  ท่านประธานเป็นคนที่สามารถทำให้ผมยอมที่จะยอมคุกเข่าลงได้ แทนที่จะดึงดันทำตามความคิดของตัวผมเอง, คุณจะเข้าใจมันได้นะครับ แม่ของผมถึงกับยกให้ท่านประธานเป็นเหมือนกับพระเจ้าผู้คุมครองครอบครัวของผมเลยครับ ท่านประธานได้มอบเป้าหมายชีวิตให้กับผม  ไม่ใช่ในฐานะอีซึงกิที่เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์  แต่เป็นการมีชีวิตอยู่แบบผู้ชายที่ชื่อ อีซึงกิ

ท่านประธานบอกผมว่า ครั้งแรกที่เธอพบผม เธอคิดว่าผมต้องใช้เวลาในการเรียนรู้อย่างน้อยก็ 5 ปี  แต่ถึงตอนนี้เราก็ทำงานด้วยกันมาได้ 10 ปีแล้วครับ
ผมคิดว่าผมยังขาดบางอย่างอยู่ ในทุกๆครั้งที่อัลบั้มของผมถูกปล่อยออกมา  เราทั้งคู่มักจะกังวลเกี่ยวกับมัน และผมก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายเลยครับ


ตั้งแต่ที่ผมต้องเรียนรู้เรื่องนี้ ครอบครัวสมาชิกในบริษัทของผม  ต่างก็ช่วยกันสนับสนุนและคอยดูแลจนแน่ใจว่าผมจะไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดๆ ด้วยความเต็มใจกันหมดเลยครับ,  ด้วยความสัตย์จริงนะครับ ถ้าหากว่านี่ไม่ใช่เพราะพวกเขาทำเพื่อผม ทุกคนก็คงจะไม่ต้องมารับกับคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับอะไรเลยครับ
แต่พวกเขาต้องทำเช่นนั้นอยู่เป็นปี...เมื่อผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็ยิ่งตระหนักมากยิ่งขึ้นว่าพวกเขาจะต้องคอยประณีประนอม หรือแม้กระทั่งต้องเสนอคำแนะนำต่างๆ ต่อผู้คนที่อยู่รอบๆผม ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะปกป้องผม แล่ะช่วยให้ผมได้เติบโต

ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้มากนัก แต่ผมก็รู้ดีว่า ผมมีท่านประธาน และสมาชิกครอบครัวในบริษัท ที่คอยพิทักษ์ผมอยู่ข้างๆครับ

ผมได้รับความรักมากมายจากพวกคุณทุกคน ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากผู้คนอย่างมากมายอีกด้วย ... ขอบคุณมากๆครับ!!!


ผมรู้สึกว่า ครอบครัวสมาชิกในบริษัทและคนรอบข้างผม กำลังคิดว่า มันจะต้องดีมากๆแน่ๆเลย ถ้าตอนนี้มีคนที่เหมาะสมกับผม ตั้งแต่ที่พวกเขาคิดแบบนั้น แน่นอนว่าหน้าตาต้องสำคัญ และแน่นอนว่าต้องจะต้องสวยครับ (ผมล้อเล่นน่ะครับ^_^ )
ผมคิดว่า คนที่เต็มไปด้วยน้ำใจและความเอื้ออาทร จะเหมาะกับการจับคู่กับสิ่งอื่นๆได้ดีครับ  อาชีพอะไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ   ผมเคยมีลองคิดว่า มันน่าจะดีถ้าหากว่าเป็นคนในวงการบันเทิงด้วยกันที่จะสามารถเข้าใจกันได้ง่ายครับ แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นอาชีพอะไรครับ

คนเราทุกคนล้วนมีอะไรที่แตกต่างกันออกไป,  คุณรู้ไหมครับว่า ถ้ามีคนห้ามไม่ให้คุณทำบางอย่างมากๆนะ  นั่นยิ่งจะทำให้คุณต้องการที่จะทำมันมากขึ้น
ก่อนหน้านั้น ผมคิดว่าต้องระมัดระวังหรือไม่ก็ต้องละเว้นไปเลยเรื่องการออกเดท  แต่ตอนนี้ผมกังวลเกี่ยวกับมันน้อยลงแล้วครับ  เพราะผมรู้สึกเป็นอิสระขึ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมได้ได้หมายความว่าผมไม่อยากออกเดท แต่ผมแค่ไม่อยากทุ่มเทและใช้ความพยายามกับมันมาก เหมือนที่ผ่านมาแค่นั้นเองครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ขอบคุณทุกๆคนมากครับ ...จากก้นบึ้งหัวใจของผม


 ความฝัน เป้าหมาย ของนักร้องซื่อ อีซึงกิ
ผมคิดว่าผมกำลังถ่ายละครอยู่เกือบจะตลอดเวลาเลยในขณะที่ผมกำลังทำอัลบั้ม
ตอนที่ผมถ่ายทำเรื่อง My Girlfriend is a Gumiho ผมก็ทำรายการ 1 Night 2 Days’ กับ ‘Strong Heart’ ไปด้วย
พอผมย้อนมาคิดเกี่ยวกับมันในตอนนี้  ผมเชื่อในคำพูดที่ว่า “คุณกล้า เพราะคุณยังรู้ไม่มากพอ”
เมื่อก่อน ผมร้องเพลง ที่มีคนแต่งให้ผม ในเพลงประกอบละคร แต่ตอนนี้ ผมได้มีส่วนร่วมในเพลงประกอบละคร ด้วยการแต่งทำนองและเนื้อร้องเอง
ผมคิดว่า ทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณกล้าท้าทายและมีความทะเยอทะยานมากพอ

เมื่อก่อนผมไม่ชอบทำอะไรที่น่าอาย เพราะผมต้องการจะเป็นชายหนุ่ม มากๆเลยล่ะครับ ตอนนั้นผมเลยไม่ชอบอะไรที่น่าอาย และได้แค่ทำงานหนักแบบไม่เคยทำมาก่อนเลยครับ ผมเชื่อว่าความคิดเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม  แต่ตอนนี้  ผมได้คิดมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ผมแค่ทำงานของผมให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ผลงานดีๆออกมา มากกว่าพยายามที่อยากจะเป็นชายหนุ่มเหมือนแต่ก่อนครับ

ได้โปรดคาดหวัง กับด้านอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปของผมในอนาคตด้วยนะครับ

มันเป็นเรื่องดีนะครับที่ที่ได้อันดับหนึ่งในเรื่องเพลงและการทำกิจกรรมในฐานะนักร้อง  ยิ่งไปกว่านั้น ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอยากมาก ในขณะที่ได้ดูรุ่นพี่ Cho Youngpil  , กว่าทศวรรษมาแล้วตั้งแต่ที่รุ่นพี่ออกอัลบั้มมา และตอนนี้เขาสามารถที่จะสื่อสารกับผู้คนได้ในทุกๆที่ ผ่านบทเพลงของเขา ...มันน่าประทับใจมากครับ
อีกครั้งหนึ่ง ที่ผมรู้สึกแบบเดียวกัน เมื่อได้เห็นอัลบั้มของรุ่นพี่ Lee Sunhee ครับ
ผมเองก็จะพยายามที่จะเป็นอีกคนที่สามารถสื่อสารกับทุกคน ผ่านบทเพลงให้ได้เช่นกันครับ

ในขณะที่ผมยุ่งมากๆ แม้จนกระทั่งตอนนี้ ผมได้ชื่อเล่นว่า “multi-Entertainer” (เอนเตอร์เทนเนอร์ทีทำหลายๆอย่าง ในเวลาเดียวกัน 5555++ )  ทั้งเป็นนักร้อง นักแสดง และพิธีกรวารไรตี้
ผมไม่คิดว่า ผมจะมีเวลาแม้แต่จะสะท้อนตัวเองออกมาได้ เหมือนกับที่กำลังทำอยู่ตอนนี้
ผมมีความสุขจริงๆครับ เพราะผมหาช่องทางในการสื่อสารอื่นๆ และก็เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้คุยกับพวกคุณผ่านโอกาสพิเศษนี้

ผมจะทำงานให้ออกมาดีที่สุด  เพื่อแสดงให้พวกคุณเห็นว่า พวกคุณจะไม่มีทางผิดหวังกับ อีซึงกิครับ
ผมจะรอคอย ความคาดหวังที่อบอุ่นและการตักเตือนอย่างรักใครจากพวกคุณทุกคนนะครับ
ได้โปรดมองความรักให้กับ อีซึงกิ และละครเรื่อง Gu Family Book เยอะๆนะครับ, พวกคุณสัญญาแล้วนะ?
งั้น, ผมจะมาเจอพวกคุณอีก ทางทีวีนะครับ!

Please Take Out with Full Credit....
[EN-Trans] : http://tryp96.wordpress.com
[TH-Trans] : Airen’e

FACEBOOK.COM/PAGES/LEE-SEUNG-GIS-AIREN-THAILAND

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น