อีซึงกิซัมเมอร์ โชว์อินเจแปนที่ยูนิเวอร์อซลสตูดิโอประเทศญี่ปุ่น เริ่มเวลา 11 โมงครึ่ง เพลงแรกที่แสดงคือเพลง Because We Are Friends ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น หลังจากร้องเพลงจบ ซึงกิก็กล่าวทักทายแฟนๆว่า ..
สวัสดีครับ ผมอีซึงกิครับ ผมกลับมาโอซาก้าอีกครั้งหลังจากไม่ได้มาเป็นเวลาพอสมควรซึ่งมันยังคงเป็น ความรู้สึกเหมือนเดิมเช่นเดียวกับการมาครั้งก่อนเมื่อ2 ปีที่แล้ว คือผมรู้สึกเป็นกังวลมากๆ แต่ในขณะเดียวกันผมก็ยังรู้สึกมีความสุขมากๆที่ได้กลับมาทำการแสดงสดที่นี เพื่อพวกคุณดังนั้นผมจะทำให้ดีที่สุด ผมเป็นห่วงว่าฝนอาจจะตก แต่โชคดีที่สภาพอากาศได้มีการชะลอไว้ให้ฝนไม่ตก ซึ่งจริงๆต้องขอบคุณผมนะครับ (ซึงกิยิ้ม ) ทำไมเราต้องเขินอายกันด้วยที่จะยกความดีความชอบทั้งหมดให้กับผม , Sunny Boy งั้นตอนนี้ผมขอที่จะทำการแสดงนี้เพื่อคุณ เพลง Love time ( Renai Jida ) เวอร์ชั่น ภาษาญี่ปุ่นของผม ..
ซึ่งซึกิพูดข้อความทั้งหมดนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นที่สมบูรณ์แบบมาก ซึ่งเค้ามีความสามารถมากๆ !!
ระหว่างการร้องเพลง Love time ซึงกิได้หยิบบทสนทนาในเพลงขึ้นมาพูดด้วย และใช้นิ้วมือของเขาชี้ไปที่ผู้ชม
และแน่นอนที่สุดทุกๆเมือ่เค้าชี้มือไปที่ส่วนใดก็ตาม ก็จะได้รับการตอบรับที่ที่ดีมากและส่งเสียงกรีดร้องอย่างตื่นเต้น (ยิ้มมีความสุข)
เมื่อซึงกิร้องท่อน “ ผมจะรักคุณให้มากที่สุด ” แล้วเค้าก็ชี้มือไปที่ผู้ชมซึ่งนั่นทำให้ทุกๆคนมีความสุขมากๆ
แต่ซึงกิก็ยังคงแสดงความน่ารักและมุมที่หล่อเหลาของเค้าออกมา ซึ่งเค้ายังคงไม่ทิ้งความเป็น Mr.Helpless (heodang) คือซึงกิเอาเนื้อเพลง 2 ท่อนมาร้องรวมกัน (ยิ้ม)
ถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กๆ แต่ทุกๆคนก็ยังคงซาบซึ้งกับเพลงและร่วมร้องด้วยกันในท่อนคอรัสช่วงสุดท้าย.
แล้ว MC ก็เข้ามาสัมภาษณ์ซึงกิ นี่คือบทสนทนานะคะ .
ซึงกิ : คือมันก็เป็นระยะเวลาพอสมควรแล้วที่ผมเคยได้ร้องเพลงที่ญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลในขณะนี้. อีกอย่างหนึ่งก็คือ 10 ปีที่ผ่านมาตั่งแต่วันที่ผมเปิดตัวเป็นนักร้อง นี่ถือว่าเป็นการแสดงครั้งแรกของผมที่แสดงกันตอนเช้าแบบนี้และการที่ต้อง แสดงบนเวทีที่สว่างจ้าแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนถูกจับตามองโดยที่ ปราศจากเครื่องสำอางค์ใดๆ และมันทำให้ผมรู้สึกอายนิดๆ.
MC: นี่ก็เป็นระยะเวลา 10 ปีแล้วนะตั่งแต่คุณ debut.สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย พวกเรามาร่วมแสดงความยินดีกับอีซึงกิกันนะคะ แล้วผู้ชมก็ร่วมกันพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ยินดีด้วยนะ ซึงกิ“
แล้วซึงกิก็วางมือเป็นรูปหัวใจอยู่บนศีรษะของเค้าด้วยท่าทางที่น่ารักเป็นคำ ตอบแทน ..
MC: ซึงกิค่ะ คุณประทับใจอะไรในโอซาก้าค่ะ
ซึงกิ : ( ในสำเนียงแบบคันไซ ) สุดยอดมาก ปกติผมจะมาสถานที่จัดงานก่อนในวันรุ่งขึ้นแต่คราวนี้ผมมาที่นี่ในวันที่ 3 คือในวันพุธผมไปที่โอซาก้าโดมเพื่อที่จะชมการแข่งเบสบอลเพราะผมเป็นเพื่อนกับ อีแดโฮ ครับ
MC: พูดถึงอีแดโฮ ดิฉันได้ยามาว่าเค้าเพิ่งทำโฮมรันได้
ซึงกิ : วันนั้นผมไปดูการแข่งขันนะ แต่ทีมของอีแดโฮแพ้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ความผิดผมนะ เข้าใจกันนะครับ ! แล้วคืนนั้นพวกเราก็ออกไปทานอาหารค่ำด้วยกัน พอกลับไป วันรุ่งขึ้นอีแดโฮก็ตีโฮมรันได้ ซึ่งแน่นอนต้องขอบคุณผมนะ.
MC: เกมส์แพ้ไม่เกี่ยวกับซึงกิ แต่ถ้าชนะต้องมาขอบคุณซึงกิ .. คุณเป็นคนที่ไวมากในการเรียกร้องความดีความชอบ (ยิ้ม) [555 MC เป็นผู้กระตุ้นบรรยากาศให้มีความเบิกบานสนุกสนานได้เป็นอย่างดี ] MC: ดิฉันรู้มาว่า ซึงกิมีชื่อเล่นๆอีกชื่อหนึ่งว่า Sunny Boy
ซึงกิ : ใช่แล้วครับ ซึ่งมันก็เหมือนกับที่เกาหลีเลยครับ. ซึ่งถ้าในสถานการณ์ปัจจุบันไม่ใช่ชื่อ ไต้ฝุ่น (จากพายุที่กำลังจะมา คือฝนมันใกล้จะตกที่โอซาก้า) หรือ สไตรค์ ( จาการที่อีแดโฮทำโฮมรันได้) ก็คงเป็น Sunny Boy นี่แหละครับ .
MC: คุณเหงื่ออกมากเลยนะคะหลังจากที่ร้องเพลงสุดท้าย แต่ตอนนี้เหงื่อไม่ออกแล้ว เม็ดเหงื่อทำให้คุณส่องประกายคล้ายกับคริสตัลเลย
ซึงกิ : หล่อสุดๆเลยใช่มั้ยครับ (ยิ้ม)
*แล้ว MC ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา*
MC: สำเนียงคันไซของคุณดีมากๆ คุณรู้จักคำอื่นๆนอกจาก คำว่า สุดยอด อีกมั้ย
ซึงกิ : รักสุดๆ กับ จริงเหรอ อะไรทำนองนั้นอ่ะครับ
MC: คุณรู้เยอะเหมือนกันนี่ค่ะ
แล้ว MC ก็ชักชวนคนดูให้สอนคันไซให้กับอีซึงกิและซึงกิก็ให้ความร่วมมือด้วยการพูด ตามอย่างดีเยี่ยม
แม้ว่าจะมีการปรุงแต่งสำเนียงของคันไซให้สนุกขึ้น หรือใช้ทริคใดๆเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่สำเนียงเสียงของซึงกิก็ยังคงความสง่างามดูดีเสมอ(^m^)
MC: ซึงกิค่ะ คุณได้ลองทานอาหารท้องถิ่นบ้างรึยังค่ะ
ซึงกิ : ผมได้ลองทานซูชิพร้อมกับคุณอีแดโฮครับ ก่อนที่ผมจะมาโอซาก้า ผมได้ยินชื่อเสียงมาว่าโอซาก้าเป็นสรวงสวรรค์แห่งอาหารนานาชนิด ซึ่งทำให้ผมตั้งตารอคอยที่จะมาสัมผัสด้วยตัวเอง. ผมยังได้ลองทาน Kinryu Ramen และ โอโคโนมิยากิ เป็นเวลา 2 วัน ติดต่อกันเลยครับ. อ้อ แล้วตอนที่ผมได้ทานราเมน มีอุบ้ติเหตุเกิดขึ้นนิดหน่อยครับ คือผมทำน้ำหกเลอะกางเกง ซึ่งทำให้ผมต้องนั่งรอจนกว่ากางเกงจะแห้ง ตอนนั้นผมอายมากๆครับ และทำให้ผมคิดว่า นี่อาจไม่ใช่ลางที่ดีแล้วสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม แต่โชดีมากครับๆ ที่การแสดงในวันนี้เดินไปข้างหน้าได้อย่างลื่นไหล.
*แล้วบทสนทนาก็เปลี่ยนหัวข้อมาที่เรื่อง Gu Family Book *
-ตอนแรกซึงกิหันไปถามคนดูว่าเคยดุกันรึยังครับสำหรับดราม่าเรื่องนี้ ซึ่งแน่นอนว่ามีเสียงดังกึกก้องเป็นเสียงเดียวกันว่า yes (ดูแล้วค่า)
ซึงกิ : คาแรคเตอร์ในเรื่องนี้เค้าสวมบทบาทเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ ซึ่งถือว่าเค้าเคยเล่นบทแบบนี้เป็นเรื่องแรกในวงการละครเกาหลีเพื่อที่จะให้ ผู้ชมเข้าใจคาแรคเตอร์ของตัวละครผมต้องทำงานหนักมากในการตีความบทของคังชิ เพราะว่าการถ่ายทำส่วนมากอยู่ในบริเวณภูเขา บ่อยครั้งที่ผมรู้สึกเหงาบวกกับปัจจัยอีกหลายสิ่งอย่าง เช่น อาหารที่มีตามมีตามเกิด และ การแต่งหน้าที่ยากลำบาก แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม.
MC: ตอนนี้คุณอยู่ในช่วง Asia Tour มีประเทศใดบ้างที่อยู่ในตารางทัวร์ของคุณครั้งนี้ค่ะ
ซึงกิ : ก็มี ประเทศไทย สิงค์โปร์ ไต้หวัน และในเดือนตุลาคมก็จะมีคอนเสริ์ตที่ญี่ปุ่นครับ. ระหว่างตอนเสริ์ตพวกนี้ ผมก็ทำงานร่วมกับวงดนตรีและงานเขียนบทสุดท้ายของ Ms.Yoshimoto ซึ่งจะถูกเปิดเผยที่นั้นด้วย
MC : ซึงกิค่ะ คุณได้เคยอ่านงานเขียนในนิตรสาร AnAn Magazine มั้ยค่ะ
ซึงกิ : ครับ ผมได้อ่าน รู้สึกว่าคนที่เค้ากล่าวถึงนั้น เค้าจะเท่ห์กว่าผมอีกนะ.. ผมล้อเล่นนะครับ (ยิ้ม)
MC : ถึงแม้ว่าหน้าร้อนใกล้จะสิ้นสุดลงแต่ดิฉันก็ยังอยากถามถึงกิจกรรมยามว่างของ คุณในหน้าร้อน ซึงกิ : ผมชอบไปเยี่ยมชมสถานที่เหมือนกับอย่างเมืองโอซาก้า, ชอบออกไปลองทานอาหารดีๆ และบางทีก็แค่ออกไปโต๋เต๋นอกบ้านแล้วผมก็ยังชอบไปชายทะเลด้วยครับ
MC : ถ้าเกิดในอนาคตคุณมีแฟนขึ้นมา คุณอยากให้แฟนคุณ ใส่ชุดว่ายน้ำแบบไหนค่ะ
ซึงกิ : (เขิลอาย) บิกินี่ (ยิ้ม)
หลังจากจบการสนทนา อีซึงกิได้ทำการแสดงต่อ แต่ก่อนหน้านี้ซึงกิได้หยิบขวดน้ำพร้อมกับใช้หลอดจิบน้ำซึ่ง ณ จุดนี้ MC รีบรายงานสดต่อผู้ชมทันทีว่า ขณะนี้นะคะ อีซึงกิกำลังดื่มน้ำอยู่ ได้โปรดให้ความสนใจเป็นพิเศษไปที่ลูกกระเดือกของอีซึงกิด้วยค่ะ
[ ถึง MC รสนิยมคุณออกจะแปลกประหลาดไปนิดนึงนะคะ (^o^;)?]
แต่ซึงกิผู้ชอบแสดงออกของพวกเราได้หันด้านข้างแบบจงใจให้ทุกคนได้สังเกตุ เห็นเนื้อหาที่อยู่ภายในหัวใจของเขา (^m^).
ซึงกิ กล่าวว่าเพลงต่อไปที่จะแสดงนี้อยู่ในชารต์อันดับที่ 1 ยาวนานที่สุดของปีที่แล้ว จากอัลบั้มที่ 5.5 ของผม : Return
{ ฉันเคยได้ยินซึงกิร้องเพลงนี้มาก่อนและบางครั้งฉันรู้สึกได้ว่าซึงกิเครียด นิดๆ แต่วันนี้ซึงกิอยู่ในฟอร์มที่ดีมากๆและเสียงซึงกิก็ยังน่ารักอีกด้วย }
หลังจาก Return จบลงไป ซึงกิก็ออกมาพร้อมกับกีตาร์และยืนอยู่หน้าไมโครโฟน
ซึงกิจับกีตาร์และเริ่มร้องเพลงที่ 4 ของวันนี้ Tonight .. โอ้ว ~
เพลงนี้เป็น 1 ในเพลงที่ฉันหวังจะได้ยินซึงกิร้องที่ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน.
และซึงกิยังเล่นกีตาร์และกับร้องเพลงไปพร้อมกันในเวลาเดียวกันซึ่งทำให้เค้าฉายแสงเปร่งประกายความมีสเน่ห์เฉพาะตัวออกมา
แต่ เซอร์ไพรส์ที่มากมายที่สุดคือเพลงที่ 5 Love Taught Me to Drink ซึ่งถือว่าเป็นเพลงที่เหมาะสมน้อยที่สุดที่จะนำมาร้องเวลากลางวันในสวนสนุก แบบนี้ แต่ที่นี่แล้วมันคือเวทมนตร์และเสียงที่น่าทึ่งของซึงกิก้ทำให้เกิดการเคลิบ เคลิ้มกันอย่างทั่วหน้า
ระหว่างช่วงเวลาการแจกของขวัญ ซึงกิปรากฎตัวในเสื้อเชริ์ตสีขาวพร้อมกับเสื้อกั๊กสีดำ
MC : ชุดสูทเมื่อกี้นี้ก็ดูสมาร์ทแต่ชุดเสื้อกั๊กแบบนี้ก็ไม่ดูหล่อน้อยลงเลย เสื้อผ้าสไตล์ไหนค่ะ ที่ปกติซึงกิชอบใส่อ่ะคะ
ซึง กิ : ปกติผมจะแต่ตัวสไตล์สบายๆ มักใส่ผ้าฝ้าย 100 % กับกางเกง ซึงผมคิดว่าการแต่งตัวง่ายๆธรรมดานั่นจะสะท้อนความดีงาม สุภาพเรียบร้อยของบุคคลนั้นๆได้ดีกว่า, คุณคิดว่าไง?
MC : ซึงกิของพวกเราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเรื่อยๆและชอบที่จะพูดคุย(ยิ้ม)
การ ที่จะได้รับซีดี พร้อมลายเซนต์ 3 แผ่นนั้น ต้องมีการจับฉลาก ผู้ที่ได้รับเลือกจะต้องตอบคำถามจากบนเวทีเช่นเพลงโปรดของซึงกิ หรือร้องเพลงโปรดของซึงกิ
ครั้งนึงมีคนตะโกนว่า เส้นเลือดในมือของซึงกินั้นช่างมีสไตล์ ผลหลังจากนั้นก็คือซึงกิได้โชว์หลังมือให้ผู้ชมดูอย่างคนที่ชอบเปิดเผยและมี น้ำใจ
MC : เส้นเลือดบนมือของซึงกินั้นปูดโปดช่างแลดูสมเป็นชาย.
ซึงกิ : เส้นเลือดพวกนี้ไม่ได้มีมาตั่งแต่แรกนะครับ
MC : (พูดแย้งขึ้นมาทันที) เป็นไปได้อย่างไรกันที่จะไม่มีเส้นเลือดในตอนแรก ทุกๆคนต้องมีเส้นเลือดกันทั้งนั้น
ซึงกิ : โอ้ ใช่ๆ มีครับมี .. แต่เมื่อก่อนมันหลบอยู่ข้างใน แต่ทุกวันนี้มันปูดออกมาเพราะผมออกกำลังกายบริหารมือครับ
MC : (รีบหันมารายงานต่อผู้ชมว่า) ซึงกิมีนิ้วเรียวยาวและสีของเล็บนั้นเป็นสีชมพูสวยงาม (ยิ้ม)
ก็อย่างที่ฉันถาม MCคนดี ความหมกหมุ่นของคุณนั้นมันช่าง ——!?(^m^)
ซึง กิถอยกลับไปที่หลังเวที หลังจากร้อง 3 เพลงสุดท้ายจบ ซึ่งได้แก่ Will You Marry Me , Smile Boy , and Let’s Go Travel แต่แน่นอนที่สุดคนดูจะไม่ปล่อยซึงกิไปง่ายๆ ก็แค่ผู้ชมฝั่งหนี่งร้องตะโกนเรียกซึงกิ และในขณะเดี๋ยวกัน ผู้ชมอีกฝั่งหนึ่งก็ร้องอังกอร์ ขออีก ซึ่งมันดูเป็นความโกลาหลอลม่านเล็กๆเลยทีเดียว.
อย่างไรก็ดี ซึงกิคนดีของพวกเราก็กลับมาร้อง Slave ให้เป็นเพลงอังกอร์ ..
และเป็นสรุปว่าการแสดงสิ้นสุดลงที่เวลา13:10 ..
จาก การสรุปของฉันเอง .. ตอนแรกฉันรู้สึกว่าช่วงเวลาการพูดคุยและการแจกของรางวัลใช้เวลามากเกินควร แล้วฉันก็ได้มาตระหนักในภายหลังว่า ในช่วงเวลา 90 นาทีตามกำหนดการแสดงนั้น ซึงกิร้องไปถึง 9 เพลง. ส่วนคุณยูมิ MC นั้นก็ตลกมากๆและที่สำคัญตัวซึงกิเองก็น่ารักและหล่อมากๆเช่นกัน บวกกับเสียงที่ไม่มีใครเอาชนะซึงกิได้ ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ฉันรู้สึกพอใจมากๆกับซัมเมอร์โชว์ครั้งนี้
ซึงกิอ่า ขอบคุณที่คุณเดินทางมาโอซาก้า เพื่อกิจกรรมอันแสนโดดเด่นสุดพิเศษนี้ ..
ขอบคุณที่ให้เราเวลานี้มีช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดด้วยกัน !!
Japanese fan account by maya
Chinese translation by nanako210 @ baidu tieba
English translation by AnnMichelle, special contributor to Everything Lee Seung Gi
Thai-Tran : Shai Rattana
อีซึงกิหนุ่มหล่อของเราน่ารักเสมอ
ตอบลบ